อยากออกจากงานประจำ ต้องมี เงินสำรอง เท่าไหร่ถึงกล้าออก?

             การตัดสินใจลาออกจากงานประจำไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะนอกจากความมั่นคงทางรายได้ที่หายไปแล้ว ยังมีเรื่องค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันที่ต้องรับผิดชอบอีกมากมาย หลายคนอยากออกจากงานเพื่อไปทำธุรกิจส่วนตัว หรือต้องการอิสรภาพในการใช้ชีวิตมากขึ้น แต่คำถามสำคัญที่ต้องคิดให้รอบคอบคือ “ต้องมี เงินสำรอง เท่าไหร่ถึงจะกล้าออก?”

บทความนี้จะพาคุณมาวิเคราะห์ว่าเงินสำรองที่ควรมีก่อนออกจากงานควรเป็นเท่าไหร่ และมีปัจจัยอะไรบ้างที่ต้องคำนึงถึงก่อนตัดสินใจลาออก

เงินทอง
เงินทอง

1. คำนวณค่าใช้จ่ายรายเดือนของคุณก่อน

ก่อนจะคิดว่าเงินสำรองต้องมีเท่าไหร่ สิ่งแรกที่ต้องรู้คือตัวเลข ค่าใช้จ่ายรายเดือนของตัวเอง อย่างละเอียด ลองจดค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายทุกเดือน เช่น

  • ค่าที่พัก (ค่าผ่อนบ้าน/ค่าเช่า)
  • ค่าน้ำ-ค่าไฟ-ค่าอินเทอร์เน็ต
  • ค่าเดินทาง (ค่าน้ำมัน/ค่ารถโดยสาร)
  • ค่าอาหารและเครื่องดื่ม
  • ค่าผ่อนหนี้ (ถ้ามี) เช่น หนี้บัตรเครดิต หนี้สินเชื่อ
  • ค่าประกันสุขภาพ / ประกันชีวิต
  • ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น การดูแลครอบครัว การท่องเที่ยว หรือไลฟ์สไตล์ส่วนตัว

เมื่อรวมทุกอย่างแล้ว คุณจะได้ตัวเลขว่าต้องใช้เงินขั้นต่ำต่อเดือนเท่าไหร่

ตัวอย่าง:
ถ้าค่าใช้จ่ายรายเดือนของคุณอยู่ที่ 30,000 บาท คุณต้องมีเงินสำรองเท่าไหร่ถึงจะพอ? มาดูกันต่อ

2. เงินสำรอง ที่ควรมีก่อนลาออก

เงินสำรองที่แนะนำควรครอบคลุมค่าใช้จ่ายของคุณ อย่างน้อย 6-12 เดือน หรือมากกว่านั้นถ้าคุณยังไม่มีรายได้ใหม่ที่มั่นคง

  • กรณี เงินสำรอง 6 เดือน:

    • เหมาะสำหรับคนที่มีแผนหาเงินสำรองไว้แล้ว เช่น มีธุรกิจที่เริ่มทำรายได้ หรือมีงานฟรีแลนซ์รองรับ
    • ถ้าคุณมีค่าใช้จ่าย 30,000 บาท/เดือน เงินสำรองขั้นต่ำที่ต้องมีคือ 180,000 บาท (30,000 × 6)
  • กรณีเงินสำรอง 12 เดือน:

    • เหมาะสำหรับคนที่ยังไม่แน่ใจว่าจะหารายได้ใหม่ได้เร็วแค่ไหน หรืออยากมีเวลาลองผิดลองถูก
    • ถ้าคุณมีค่าใช้จ่าย 30,000 บาท/เดือน เงินสำรองขั้นต่ำที่ต้องมีคือ 360,000 บาท (30,000 × 12)
  • กรณีเงินสำรอง 18-24 เดือน:

    • แนะนำสำหรับคนที่ต้องการความมั่นใจสูงมาก หรือมีภาระครอบครัวที่ต้องดูแล
    • ถ้าคุณมีค่าใช้จ่าย 30,000 บาท/เดือน เงินสำรองที่ควรมีคือ 540,000 – 720,000 บาท

ยิ่งคุณมีเงินสำรองมากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งลดความเสี่ยงในการออกจากงานได้มากขึ้น

3. มีแผนหารายได้ใหม่หรือยัง?

การมีเงินสำรองอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ หากคุณยังไม่มีแผนหารายได้ใหม่อย่างชัดเจน ลองพิจารณาว่าคุณมีทางเลือกใดบ้าง เช่น

  • ธุรกิจส่วนตัว: หากคุณมีไอเดียธุรกิจที่ต้องการทำ ลองเริ่มต้นเป็นอาชีพเสริมก่อนออกจากงาน
  • งานฟรีแลนซ์: เช่น การเขียนบทความ งานออกแบบ กราฟิกดีไซน์ โปรแกรมมิ่ง หรือคอนเทนต์ครีเอเตอร์
  • ลงทุน: เช่น หุ้น กองทุนรวม อสังหาริมทรัพย์ หรือคริปโต แต่ต้องศึกษาให้ดีเพราะมีความเสี่ยง
  • หารายได้ออนไลน์: เช่น ขายของออนไลน์ ทำคอร์สเรียนออนไลน์ ทำแชนแนล YouTube หรือ ลงทุนกับ เว็บหวยออนไลน์ถูกกฎหมาย Global Lotto

หากคุณสามารถหารายได้ใหม่ที่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายก่อนลาออก นั่นจะช่วยให้การออกจากงานเป็นไปอย่างราบรื่นขึ้น

4. ภาระหนี้สินและประกันชีวิต

ภาระหนี้สินและประกันชีวิตเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องคำนึงถึงก่อนตัดสินใจลาออกจากงาน หากคุณมีภาระหนี้ เช่น ค่าผ่อนบ้าน ผ่อนรถ หรือหนี้บัตรเครดิต คุณต้องแน่ใจว่ามีเงินสำรองเพียงพอสำหรับจ่ายหนี้เหล่านี้อย่างน้อย 12 เดือนขึ้นไป เพราะเมื่อไม่มีเงินเดือนจากงานประจำแล้ว คุณยังต้องรับผิดชอบภาระหนี้เหล่านี้ต่อไป การค้างชำระอาจส่งผลต่อเครดิตทางการเงิน ทำให้กู้เงินในอนาคตได้ยากขึ้น นอกจากนี้ ควรพิจารณาปิดหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงก่อนออกจากงาน เพื่อลดภาระการเงินและความเครียดที่อาจเกิดขึ้นหลังจากลาออก

ประกันชีวิตและประกันสุขภาพเป็นอีกเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเมื่อออกจากงาน คุณจะไม่ได้รับสวัสดิการด้านประกันสุขภาพจากบริษัทอีกต่อไป การมีประกันสุขภาพส่วนตัวจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อป้องกันค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยโดยไม่คาดคิด 

หากคุณมีครอบครัวหรือคนที่ต้องดูแล ประกันชีวิตก็เป็นอีกสิ่งที่ควรมีติดตัว เพื่อให้แน่ใจว่าคนที่คุณรักจะยังมีเงินสำรองหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน การเตรียมตัวในเรื่องเหล่านี้จะช่วยให้คุณออกจากงานได้อย่างมั่นใจและไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับปัญหาทางการเงินในอนาคต

5. ปรับลดค่าใช้จ่ายและใช้ชีวิตอย่างประหยัด

การปรับลดค่าใช้จ่ายและใช้ชีวิตอย่างประหยัดเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้คุณมีความมั่นคงทางการเงินก่อนและหลังลาออกจากงาน การเริ่มต้นด้วยการจดบันทึกรายรับ-รายจ่ายจะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมว่าคุณใช้เงินไปกับอะไรบ้าง จากนั้นให้ลองตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออก 

เช่น ลดการทานอาหารนอกบ้าน ลดการซื้อของฟุ่มเฟือย หรือเปลี่ยนแพ็กเกจบริการต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับการใช้งาน นอกจากนี้ การเลือกใช้ของมือสอง การใช้ระบบขนส่งสาธารณะ และการวางแผนค่าใช้จ่ายล่วงหน้าจะช่วยให้คุณสามารถประหยัดเงินได้มากขึ้น

การสร้างนิสัยใช้ชีวิตแบบพอเพียงจะทำให้คุณมีความมั่นคงทางการเงินระยะยาว ลองตั้งเป้าหมายการออมให้ชัดเจน เช่น ออมเงินให้ได้ 30-50% ของรายได้ หรือแบ่งเงินออกเป็นกองทุนฉุกเฉินเพื่อลดความเสี่ยงทางการเงิน การปรับไลฟ์สไตล์ให้เหมาะสมกับรายได้ที่มีจะช่วยให้คุณสามารถใช้ชีวิตได้อย่างไม่เครียด แม้ไม่มีเงินเดือนประจำอีกต่อไป 

หากคุณสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายและใช้เงินอย่างมีสติ คุณก็จะมีอิสระทางการเงินและสามารถลาออกจากงานไปทำตามความฝันได้อย่างมั่นใจมากขึ้น

6. วางแผนรับมือความเสี่ยง

การวางแผนรับมือความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญเมื่อคุณตัดสินใจลาออกจากงานประจำ ชีวิตหลังจากไม่มีรายได้ประจำอาจมีอุปสรรคที่คาดไม่ถึง เช่น รายได้จากธุรกิจหรืออาชีพใหม่ไม่เป็นไปตามแผน ค่าใช้จ่ายฉุกเฉินที่เกิดขึ้นกะทันหัน หรือภาวะเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อการหาเงิน 

ด้วยเหตุนี้ คุณควรมีเงินสำรองสำหรับค่าใช้จ่ายอย่างน้อย 12 เดือน รวมถึงสร้างรายได้จากหลายช่องทางเพื่อกระจายความเสี่ยง นอกจากนี้ ควรศึกษาหาวิธีลงทุนที่ช่วยให้เงินเติบโต เช่น หุ้น กองทุนรวม หรืออสังหาริมทรัพย์ โดยต้องเลือกวิธีที่เหมาะกับความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้

นอกจากการเตรียมเงินสำรองแล้ว การสร้างเครือข่ายและการพัฒนาทักษะใหม่ ๆ ก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยง การมีคอนเนคชันที่ดีสามารถช่วยให้คุณได้รับโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ หรือหางานฟรีแลนซ์ได้ง่ายขึ้น ในขณะเดียวกัน ควรพัฒนาทักษะที่เป็นที่ต้องการในตลาดแรงงาน 

เช่น การตลาดออนไลน์ การเขียนโปรแกรม หรือทักษะการบริหารธุรกิจ ซึ่งจะช่วยให้คุณมีทางเลือกมากขึ้นหากต้องการกลับเข้าสู่ตลาดงาน หรือเปลี่ยนเส้นทางอาชีพ นอกจากนี้ การมีแผนสำรองที่ชัดเจน เช่น การกำหนดระยะเวลาทดลองทำธุรกิจ หรือการตั้งเป้าหมายรายได้ขั้นต่ำ จะช่วยให้คุณรับมือกับความเสี่ยงได้ดีขึ้น และมั่นใจมากขึ้นในการใช้ชีวิตหลังจากลาออกจากงาน

เงินสำรอง
เงินสำรอง

สรุป

หากคุณอยากลาออกจากงาน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การเตรียมความพร้อมทางการเงิน อย่าตัดสินใจลาออกเพียงเพราะเบื่อหรืออยากมีอิสระ แต่ควรมีแผนรับมือที่ดี

เงินสำรอง ที่แนะนำ:
– 6 เดือน (ขั้นต่ำ) – เหมาะกับคนที่มีรายได้ใหม่รองรับแล้ว
– 12 เดือน – เหมาะกับคนที่ยังต้องใช้เวลาเริ่มต้นธุรกิจ
– 18-24 เดือน – เหมาะกับคนที่มีภาระหนี้สินสูง หรือไม่อยากเสี่ยง

ก่อนลาออกต้องตอบให้ได้ว่า

– ฉันมีเงินสำรองเพียงพอหรือยัง?
– ฉันมีแผนหารายได้ใหม่แล้วหรือยัง?
– ฉันสามารถรับมือกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้หรือไม่?

หากคำตอบของคุณคือ “ใช่” คุณก็อาจพร้อมแล้วที่จะออกจากงานไปตามความฝัน!

คุณพร้อมลาออกจากงานหรือยัง?

ถ้ายัง ลองเริ่มวางแผนตั้งแต่วันนี้ อย่าลาออกแบบไม่มีแผน เพราะความมั่นคงทางการเงินจะช่วยให้คุณใช้ชีวิตได้อย่างสบายใจมากขึ้น! 

และหากยังตัดสินใจไม่ได้ลองเข้ามาลุ้นหวยสนุกๆ ที่ Global Lotto เว็บหวยออนไลน์ถูกกฎหมาย แถมต่อยอดเงิน ถอนเงินได้จริง หลักล้านบาทต่อวัน ไม่ต้องกลัวโดนโกง เพราะเว็บนี้มีใบรับรองระดับสากล จากหน่วยงานชั้นนำโลก เปิดมานานกว่า 20 ปี ไม่ปิดหนีแน่นอน!

สมัครสมาชิกเลย >>